This is default featured post 1 title
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
This is default featured post 2 title
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
This is default featured post 3 title
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
This is default featured post 4 title
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
This is default featured post 5 title
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
9.9.54
2.9.54
6.8.54
27.7.54
21.7.54
13.7.54
รถโดนกรีดยาง Give them a lesson !
รถโดนกรีดยาง
คำถามหนึ่งที่คนทั่วไปชอบถามเวลาเจอหน้า คือ ผมโกรธบ้างหรือไม่ ผมก็จะยิ้มๆ และตอบว่า เรายังเ็ป็นมุนษ์ยุปถชนธรรมดา ย่อมต้องมีความโกรธ แต่โชคดีไม่บ่อยนัก และเวลาโกรธส่วนใหญ่จะไม่แสดงออกทางกาย ทางวาจา ืคอ ความโกรธยังไ่ม่ล้นออกมาทางคำพูดและการกระทำ ยังพอควบคุมหรือมีสติเห็นทัน สวนใหญ่มักจะเห็นใจที่เดือดอยู่ปุดๆ จะุปุดมากปุดนอย ก็ขึ้นอยู่กับระดับของเหตุการณ์นั้นๆ
โชคดีที่ ระยะหลังๆ มานี่ ไม่ค่อยมีอาการปุดๆ ในใจเลย นานๆ จะเกิดสักที คนที่ จะสามารถทำให้ผมโกรธได้ต้องเป็นคนที่เก่งมากๆ เรียกว่าต้องเป็นครูสอนธรรมะระดับเทพเชียวละ
หลายปีก่อน มีเหตุการณ์หนึ่งที่เราได้ ‘เห็น’ ความโกรธชัดเจนทวงเขามาเยือนจตใจ บ่ายวันหนึ่งผมต้องไปงานศพกะทันหัน ไม่ได้ทราบก่อนล่วงหน้าจึงไม่ไดเ้ตรียมใส่ชุดดำ คนขับรถก็ลาพอดี จึงต้องขับรถกลับมาที่ทำงานเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไป ปกติทออฟฟิศมีที่จอดรถประจำ ปรากฏว่าวันนั้นมีคนอื่นมาจอดรถในที่ของผมเองและของบริษัทหมด วนรถอยู่นานพอสมควรเลยตัดสินใจจอดในที่ของคนอื่น เพราะเห็นว่าว่างๆ อยู่ คิดในใจว่าขออนญาตจอด สัก 10 นาที วิ่งไปเปลี่ยนเสื้อกลับมาคงไม่เป็นไร เจ้าของที่ คงยังไม่มา
พอเปลี่ยนเสื้อกลับมาที่รถ ปรากฏว่ามรถคันหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของที่จอดนั้น มาจอดขวางรถเราเอาไว้ แถมยังเข้าเกียร์ล็อคไว้อีกต่างหาก เลื่อนไม่ได้ ตอนแรกกะว่าจะวิ่งไปหายามให้ช่วยไปเชิญเจ้าของรถมาเลื่อนให้ แต่เกรงว่าจะไปงานศพไม่ทัน เลยตัดสินใจขึ้นรถแท็กซี่ไป
คืนนั้น กว่าจะสวดศพเสร็จ กว่าจะร่ำลาเจ้าภาพก็ดึกพอสมควร ผมก็นั่งรถแท็กซี่กลับไปที่บ้าน ลืมเรื่องรถไปเลย
เช้าวันรุ่งขึ้น ผมเดินมาที่รถซึ่งจอดเอาไว้เมื่อคืน ตาก็ต้องเบิกกว้างขึ้น เพราะยางรถแบนแต๊ดแต๋ติดพิ้น 2 ล้อเลย พอเห็นยางรถแบนเท่านั้น ความโกรธกวิ่งเข้ามาในใจอยางรวดเ็ร็วและรุนแรง เป็นอาการบางอย่างที่ไม่เคยเห็นอยู่ในใจ แตพอเรามีสติเขาไป ‘เห็น’ ความโกรธที่วิ่งเข้ามา ก็หายไปโดยฉับพลัน ความโกรธไม่มีเลย ใจกลับเป็นปกติ ซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกมากกับตัวเอง สวนใหญ่จะโกรธกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งวัน แม้จะพยายามปลอบใจตัวเองว่า อย่าโกรธ อย่าโกรธ แต่พอเผลอแว๊บ ความโกรธก็จะวิ่งเขามาู่สู่ใจ แต่พอมีสติเข้าไปเห็นทันความโกรธเท่านั้น ความโกรธเงียบหายไป จำได้ว่าโกรธอยู่เพียง 3-5 วินาทีเท่านั้น เร็วมากๆ แล้วความโกรธก็หายไป ไม่รู้หายไปไหน ไม่กลับมาอีก สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ระหว่างที่ขึ้นลิฟท์จากชั้นที่จอดรถมาบนออฟฟิศ เราเกิดปัญญาบางอย่างที่ จะจัดการกับเหตุการณ์นี้ด้วยสติ เป็นปัญญาที่ ปกติตัวเองจะไม่สามารถคิดได้ขนาดนั้น มันเหมือนเป็นอาการสว่างวาบแล้วเกิดปัญญา ประมาณนั้น!
พอถึงออฟฟิศ ผมก็สั่งเลขาฯ ใหไปตรวจสอบว่า เจ้าของรถทะเบียนคนที่จอดรถขวางผมคือใคร แลวช่วยจัดดอกไม้ให้หน่อย เดี๋ยวจะเอาดอกไม้ไปใหเขา เลขาฯ ผมก็สงสยทำไมต้องเอาไปให้เขามากรีดยางรถผมแท้ๆ
ไม่ใช่แค่เลขาฯ เท่านั้นที่โกรธแทน พนักงานทั้งออฟฟิศโกรธกันหมด พนักงานวิ่งส่งเอกสารวิ่งมาเลย บอกว่านายๆ เดี๋ยวผมจะเอาไม้ไปทุบกระจกรถมันดีไหม ยามของอาคารก็วิ่งขึ้นมาบอกว่า คนที่กรีดยางรถผมเป็นฝรั่งเจ้าของบริษัททัวร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เขาทำอย่างนี้มาหลายครั้งแล้ว โดนกันหมด ทั้งกรีดรถ กรีดยางรถ โดนกันประจำ เขาเป็นคนนิสัยแบบนี้
ผมบอกทุกคนว่า ใจเย็นๆ รถผมเอง ไม่เป็นไร ผมไม่เป็นไร อย่าโกรธนะ..
แล้วผมก็เอากระเช้าดอกไม้ขึ้นไปที่ออฟฟิศเขาซึ่งตลกมากเพราะอยู่ ตรงกันข้ามกับสำนักพิมพ์ดีเอ็มจีซึ่งผมเช่าไว้คนละชั้นกับออฟฟิศบริษัทประชาสัมพนธ์ คิดอยู่ในใจวา อืม..ออฟฟิศอยู่ ตรงข้ามกัน อยู่ชั้นเดียวกันแท้ๆ ยังมาทำกันขนาดนี้! ผมพยายามจะขอพบเขา แต่เขาไม่ออกมาพบ ส่งจีเอ็มคนไทยและพนักงาน 2-3 คนยืนทำาหน้าถมึงขึงขังกันอยู่หน้าออฟฟิศ แล้วถามผมว่าคณใช่ไหมจอดรถทับที่เจ้านายเขา โวยวายกันใหญ่ แตเขาคงไม่รู้ว่านายเขากรีดยางรถผม
ผมไม่ได้รับเชิญให้นั่ง และได้รับการยืนยันว่านายเขาไม่ออกมาพบแน่นอน ปล่อยให้ยืนถือดอกไม้อยู่ อย่างนั้น ผมยืนอยู่ สักพักหนึ่งเห็นว่าคณฝรั่งคนนั้นไม่ออกมาแน่ เลยอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดให้ลูกน้องเขาฟัง พอทุกคนได้ยินเช่นนั้นก็เริ่มเปลี่ยนท่าที เชิญให้ผมนั่ง ดูเหมือนว่าตกใจที่ นาย
เขามากรีดยางรถเรา
ผมบอกว่าตั้งใจเอาดอกไม้มาขอโทษเจ้านายคุณ สำหรับสิ่งที่ ผมผิดพลาดในการจอดรถทับที่ของเขาเมื่อบ่ายวานนี้ แต่ผมีมเหตุจำเป็น คือ ต้องรีบไปงานศพ และที่จอดรถของผมและของบริษัทฯ มีรถจอดเต็มทั้งหมด และสิ่งที่อยากขอร้องคือเราอยู่ในตึกเดียวกันน่าจะพูดกันดีๆ ไม่น่าจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ หากเขาไปทำกับคนอื่นคงเดือดร้อน แต่สำหรับผม ผมไม่เดือดร้อน มีคนคอยดูแลเอารถไปเปลี่ยนยางได้ อย่างไรก็ตาม ผมฝากคำขอโทษไปถึงนายคุณด้วย
พูดจบแค่นั้น ผมก็ขอตัวลงมาทำงาน ปรากฏว่าก่อนเที่ยงวันเดียวกัน เลขาฯ และทีมงานเฮกันลั่นออฟฟิศ เพราะได้รับตะกร้าผลไม้ใหญ่มากพร้อมแชมเปญยี่ห้อแพงจากฝรั่งคนนั้น (เสียดายไม่ดื่ม !) เลขาฯ หัวเราะมากกว่าคนอื่น เพราะสารภาพว่าไม่ได้สั่งดอกไม้ แต่ไปเอากระถางต้นไม้ในครัวมาผูกโบว์ โชคดีที่ มีฝีมือเลยออกมาสวยงามพอให้ผมถือไปมอบให้เขาได้ ลงทุน ไม่ถึงร้อยบาท แตได้รับกลับคืนมามากกว่าหลายเท่า
แต่สิ่งที่ผมถือว่าเป็นรางวัลแท้จริง คือข้อความในจดหมายที่แนบมา (อุตส่าห์ส่งสาส์นรัก Love Note มาด้วย) เขาบอกว่าทุกครั้งที่เขาได้ ‘สั่งสอน’ คนไทยที่ไม่มีระเบียบวินัย ชอบมาจอดรถในที่ของเขา และไปทำแบบนั้น จะรู้ึสึก ‘สะใจ’ เหมือนว่าได้ Give them a lesson! คือให้บทเรียนกับคนที่ไม่มีวินัยแบบนี้ ยิ่งมีการมาโวยวายกันมากเท่าไร เขายิ่งรู้สึกสะใจมากขึ้นว่าบทเรียนที่ให้ไปนั้นได้ผล ทำให้คนไทยสำนึก
แต่เขาบอกว่า ผมมาแปลกที่เอาดอกไม้มาขอโทษ แถมยังอธิบายเหตุผลด้วย และได้เห็นตัวอย่างว่า ผมก็ไม่โกรธที่มคนอื่นมาจอดรถทับที่ผม ทั้งที่สองบริษัทฯ ผมดูแล้วน่าจะมีที่จอดมากกวาบริษัทเขาบริษัทเดียว สรุปแลว เขารู้สึกสำนึกว่าไม่ควรทำเรื่องแบบนี้ เขารู้สึกไม่ดีและอยากขอโทษ เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่รู้สึกแบบนี้
ในย่อหน้าสุดท้าย เขาบอกวาในฐานะที่ผมทำบริษัทประชาสัมพันธ์ เขาก็เป็นบริษัททัวร์ชั้นนำ ขอมาเป็นลูกค้าได้หรือไม่ สรุปว่า จากการที่เราเจอเหตุการณ์แย่ๆ เราสามารถพลิกให้คนสำนึกได้ด้วยตนเอง และยังแถมมาเป็นลูกค้าอีก เป็นอานิสงส์ของสติจริงๆ
ผมไม่ได้รับเขามาเป็นลูกค้า ไม่ใช่ว่ากลัวจะโดนอะไรอีก แต่เผอิญตอนนั้นเรามีลูกค้าเต็มมืออยู่แล้ว และหลังจากนั้น เหตุการณ์การกรีดยางรถ กรีดรถรอบคันในที่จอดรถของอาคารก็ไม่มีอีกตอไป...
ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
ใครเบื่อ ใครบ่น ทนเอา ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ
คำถามหนึ่งที่คนทั่วไปชอบถามเวลาเจอหน้า คือ ผมโกรธบ้างหรือไม่ ผมก็จะยิ้มๆ และตอบว่า เรายังเ็ป็นมุนษ์ยุปถชนธรรมดา ย่อมต้องมีความโกรธ แต่โชคดีไม่บ่อยนัก และเวลาโกรธส่วนใหญ่จะไม่แสดงออกทางกาย ทางวาจา ืคอ ความโกรธยังไ่ม่ล้นออกมาทางคำพูดและการกระทำ ยังพอควบคุมหรือมีสติเห็นทัน สวนใหญ่มักจะเห็นใจที่เดือดอยู่ปุดๆ จะุปุดมากปุดนอย ก็ขึ้นอยู่กับระดับของเหตุการณ์นั้นๆ
โชคดีที่ ระยะหลังๆ มานี่ ไม่ค่อยมีอาการปุดๆ ในใจเลย นานๆ จะเกิดสักที คนที่ จะสามารถทำให้ผมโกรธได้ต้องเป็นคนที่เก่งมากๆ เรียกว่าต้องเป็นครูสอนธรรมะระดับเทพเชียวละ
หลายปีก่อน มีเหตุการณ์หนึ่งที่เราได้ ‘เห็น’ ความโกรธชัดเจนทวงเขามาเยือนจตใจ บ่ายวันหนึ่งผมต้องไปงานศพกะทันหัน ไม่ได้ทราบก่อนล่วงหน้าจึงไม่ไดเ้ตรียมใส่ชุดดำ คนขับรถก็ลาพอดี จึงต้องขับรถกลับมาที่ทำงานเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไป ปกติทออฟฟิศมีที่จอดรถประจำ ปรากฏว่าวันนั้นมีคนอื่นมาจอดรถในที่ของผมเองและของบริษัทหมด วนรถอยู่นานพอสมควรเลยตัดสินใจจอดในที่ของคนอื่น เพราะเห็นว่าว่างๆ อยู่ คิดในใจว่าขออนญาตจอด สัก 10 นาที วิ่งไปเปลี่ยนเสื้อกลับมาคงไม่เป็นไร เจ้าของที่ คงยังไม่มา
พอเปลี่ยนเสื้อกลับมาที่รถ ปรากฏว่ามรถคันหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของที่จอดนั้น มาจอดขวางรถเราเอาไว้ แถมยังเข้าเกียร์ล็อคไว้อีกต่างหาก เลื่อนไม่ได้ ตอนแรกกะว่าจะวิ่งไปหายามให้ช่วยไปเชิญเจ้าของรถมาเลื่อนให้ แต่เกรงว่าจะไปงานศพไม่ทัน เลยตัดสินใจขึ้นรถแท็กซี่ไป
คืนนั้น กว่าจะสวดศพเสร็จ กว่าจะร่ำลาเจ้าภาพก็ดึกพอสมควร ผมก็นั่งรถแท็กซี่กลับไปที่บ้าน ลืมเรื่องรถไปเลย
เช้าวันรุ่งขึ้น ผมเดินมาที่รถซึ่งจอดเอาไว้เมื่อคืน ตาก็ต้องเบิกกว้างขึ้น เพราะยางรถแบนแต๊ดแต๋ติดพิ้น 2 ล้อเลย พอเห็นยางรถแบนเท่านั้น ความโกรธกวิ่งเข้ามาในใจอยางรวดเ็ร็วและรุนแรง เป็นอาการบางอย่างที่ไม่เคยเห็นอยู่ในใจ แตพอเรามีสติเขาไป ‘เห็น’ ความโกรธที่วิ่งเข้ามา ก็หายไปโดยฉับพลัน ความโกรธไม่มีเลย ใจกลับเป็นปกติ ซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกมากกับตัวเอง สวนใหญ่จะโกรธกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งวัน แม้จะพยายามปลอบใจตัวเองว่า อย่าโกรธ อย่าโกรธ แต่พอเผลอแว๊บ ความโกรธก็จะวิ่งเขามาู่สู่ใจ แต่พอมีสติเข้าไปเห็นทันความโกรธเท่านั้น ความโกรธเงียบหายไป จำได้ว่าโกรธอยู่เพียง 3-5 วินาทีเท่านั้น เร็วมากๆ แล้วความโกรธก็หายไป ไม่รู้หายไปไหน ไม่กลับมาอีก สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ระหว่างที่ขึ้นลิฟท์จากชั้นที่จอดรถมาบนออฟฟิศ เราเกิดปัญญาบางอย่างที่ จะจัดการกับเหตุการณ์นี้ด้วยสติ เป็นปัญญาที่ ปกติตัวเองจะไม่สามารถคิดได้ขนาดนั้น มันเหมือนเป็นอาการสว่างวาบแล้วเกิดปัญญา ประมาณนั้น!
พอถึงออฟฟิศ ผมก็สั่งเลขาฯ ใหไปตรวจสอบว่า เจ้าของรถทะเบียนคนที่จอดรถขวางผมคือใคร แลวช่วยจัดดอกไม้ให้หน่อย เดี๋ยวจะเอาดอกไม้ไปใหเขา เลขาฯ ผมก็สงสยทำไมต้องเอาไปให้เขามากรีดยางรถผมแท้ๆ
ไม่ใช่แค่เลขาฯ เท่านั้นที่โกรธแทน พนักงานทั้งออฟฟิศโกรธกันหมด พนักงานวิ่งส่งเอกสารวิ่งมาเลย บอกว่านายๆ เดี๋ยวผมจะเอาไม้ไปทุบกระจกรถมันดีไหม ยามของอาคารก็วิ่งขึ้นมาบอกว่า คนที่กรีดยางรถผมเป็นฝรั่งเจ้าของบริษัททัวร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เขาทำอย่างนี้มาหลายครั้งแล้ว โดนกันหมด ทั้งกรีดรถ กรีดยางรถ โดนกันประจำ เขาเป็นคนนิสัยแบบนี้
ผมบอกทุกคนว่า ใจเย็นๆ รถผมเอง ไม่เป็นไร ผมไม่เป็นไร อย่าโกรธนะ..
แล้วผมก็เอากระเช้าดอกไม้ขึ้นไปที่ออฟฟิศเขาซึ่งตลกมากเพราะอยู่ ตรงกันข้ามกับสำนักพิมพ์ดีเอ็มจีซึ่งผมเช่าไว้คนละชั้นกับออฟฟิศบริษัทประชาสัมพนธ์ คิดอยู่ในใจวา อืม..ออฟฟิศอยู่ ตรงข้ามกัน อยู่ชั้นเดียวกันแท้ๆ ยังมาทำกันขนาดนี้! ผมพยายามจะขอพบเขา แต่เขาไม่ออกมาพบ ส่งจีเอ็มคนไทยและพนักงาน 2-3 คนยืนทำาหน้าถมึงขึงขังกันอยู่หน้าออฟฟิศ แล้วถามผมว่าคณใช่ไหมจอดรถทับที่เจ้านายเขา โวยวายกันใหญ่ แตเขาคงไม่รู้ว่านายเขากรีดยางรถผม
ผมไม่ได้รับเชิญให้นั่ง และได้รับการยืนยันว่านายเขาไม่ออกมาพบแน่นอน ปล่อยให้ยืนถือดอกไม้อยู่ อย่างนั้น ผมยืนอยู่ สักพักหนึ่งเห็นว่าคณฝรั่งคนนั้นไม่ออกมาแน่ เลยอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดให้ลูกน้องเขาฟัง พอทุกคนได้ยินเช่นนั้นก็เริ่มเปลี่ยนท่าที เชิญให้ผมนั่ง ดูเหมือนว่าตกใจที่ นาย
เขามากรีดยางรถเรา
ผมบอกว่าตั้งใจเอาดอกไม้มาขอโทษเจ้านายคุณ สำหรับสิ่งที่ ผมผิดพลาดในการจอดรถทับที่ของเขาเมื่อบ่ายวานนี้ แต่ผมีมเหตุจำเป็น คือ ต้องรีบไปงานศพ และที่จอดรถของผมและของบริษัทฯ มีรถจอดเต็มทั้งหมด และสิ่งที่อยากขอร้องคือเราอยู่ในตึกเดียวกันน่าจะพูดกันดีๆ ไม่น่าจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ หากเขาไปทำกับคนอื่นคงเดือดร้อน แต่สำหรับผม ผมไม่เดือดร้อน มีคนคอยดูแลเอารถไปเปลี่ยนยางได้ อย่างไรก็ตาม ผมฝากคำขอโทษไปถึงนายคุณด้วย
พูดจบแค่นั้น ผมก็ขอตัวลงมาทำงาน ปรากฏว่าก่อนเที่ยงวันเดียวกัน เลขาฯ และทีมงานเฮกันลั่นออฟฟิศ เพราะได้รับตะกร้าผลไม้ใหญ่มากพร้อมแชมเปญยี่ห้อแพงจากฝรั่งคนนั้น (เสียดายไม่ดื่ม !) เลขาฯ หัวเราะมากกว่าคนอื่น เพราะสารภาพว่าไม่ได้สั่งดอกไม้ แต่ไปเอากระถางต้นไม้ในครัวมาผูกโบว์ โชคดีที่ มีฝีมือเลยออกมาสวยงามพอให้ผมถือไปมอบให้เขาได้ ลงทุน ไม่ถึงร้อยบาท แตได้รับกลับคืนมามากกว่าหลายเท่า
แต่สิ่งที่ผมถือว่าเป็นรางวัลแท้จริง คือข้อความในจดหมายที่แนบมา (อุตส่าห์ส่งสาส์นรัก Love Note มาด้วย) เขาบอกว่าทุกครั้งที่เขาได้ ‘สั่งสอน’ คนไทยที่ไม่มีระเบียบวินัย ชอบมาจอดรถในที่ของเขา และไปทำแบบนั้น จะรู้ึสึก ‘สะใจ’ เหมือนว่าได้ Give them a lesson! คือให้บทเรียนกับคนที่ไม่มีวินัยแบบนี้ ยิ่งมีการมาโวยวายกันมากเท่าไร เขายิ่งรู้สึกสะใจมากขึ้นว่าบทเรียนที่ให้ไปนั้นได้ผล ทำให้คนไทยสำนึก
แต่เขาบอกว่า ผมมาแปลกที่เอาดอกไม้มาขอโทษ แถมยังอธิบายเหตุผลด้วย และได้เห็นตัวอย่างว่า ผมก็ไม่โกรธที่มคนอื่นมาจอดรถทับที่ผม ทั้งที่สองบริษัทฯ ผมดูแล้วน่าจะมีที่จอดมากกวาบริษัทเขาบริษัทเดียว สรุปแลว เขารู้สึกสำนึกว่าไม่ควรทำเรื่องแบบนี้ เขารู้สึกไม่ดีและอยากขอโทษ เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่รู้สึกแบบนี้
ในย่อหน้าสุดท้าย เขาบอกวาในฐานะที่ผมทำบริษัทประชาสัมพันธ์ เขาก็เป็นบริษัททัวร์ชั้นนำ ขอมาเป็นลูกค้าได้หรือไม่ สรุปว่า จากการที่เราเจอเหตุการณ์แย่ๆ เราสามารถพลิกให้คนสำนึกได้ด้วยตนเอง และยังแถมมาเป็นลูกค้าอีก เป็นอานิสงส์ของสติจริงๆ
ผมไม่ได้รับเขามาเป็นลูกค้า ไม่ใช่ว่ากลัวจะโดนอะไรอีก แต่เผอิญตอนนั้นเรามีลูกค้าเต็มมืออยู่แล้ว และหลังจากนั้น เหตุการณ์การกรีดยางรถ กรีดรถรอบคันในที่จอดรถของอาคารก็ไม่มีอีกตอไป...
ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
ใครเบื่อ ใครบ่น ทนเอา ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ
1.7.54
หลวงพ่อดีเนาะ แบบอย่างของการคิดบวก
พระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ อดีตสมภารวัดป่าชิคาโก แสดงธรรมไว้หลายธรรมมาสน์คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย (สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี) ฟังแล้วติดใจ เอามาพิมพ์เป็นหนังสื่อ ชื่อ หักหอกเป็นดอกไม้
เรื่องหนึ่งที่ท่านเทศน์ เป็นเรื่องของหลวงพ่อวัดหนึ่ง ซึ่งขึ้นชื่อลือชากันว่า ท่านเป็นพระที่มีแต่ความสุข ไม่เคยมีความทุกข์
วัน หนึ่ง โยมมานิมนต์ท่านไปเทศน์ที่บ้าน บอกท่านว่าจะมารับแต่เช้า หลวงพ่อก็นั่งรอจนสายโยมก็ไม่มาสักที
หลวงพ่อก็ว่า " ไม่มา ก็ดีเหมือนกันเนาะ เราฉันข้าวของเราดีกว่า "
ฉันข้าวได้ไม่กี่คำ โยมก็มารับพอดี กราบกรานขอโทษที่มาช้า เหตุเพราะว่ารถเสีย
หลวงพ่อวางช้อน " อือ ก็ดีเนาะ ไปฉันที่งานเนาะ "
นั่ง รถไปได้สักพัก เครื่องรถก็ดับอีก คนขับบอก " รถเสียครับ " หลวงพ่อก็ว่า " ดีเนาะ ได้หยุดพักชมวิวเนาะ "
คนขับซ่อมเครื่องรถได้พัก ก็ออกปากขอให้หลวงพ่อช่วยเข็นรถ
ความจริงหลวงพ่อก็แก่ ข้าวก็ฉันได้ไม่กี่คำ แต่ทานก็ยิ้ม บอกว่า " โอ้ดีเนาะ ได้ออกกำลังเนาะ "
แล้วก็ขมีขมันออกแรงช่วยเข็นรถจนวิ่งได้
ไปถึงบ้านงาน เวลาเลยเที่ยง หมดเวลาฉันอาหารไปแล้ว เป็นอันว่า วันนั้นหลวงพ่ออดข้าว เจ้าภาพก็ร้อนใจ
อะไรๆก็เลยเวลามานาน นิมนต์ท่านขึ้นเทศน์ทันที
" ดีเนาะ มาถึงก็ได้ทำงานเลยเนาะ "
หลวง พ่อว่าแล้วก็ขึ้นธรรมมาสน์เทศน์จนจบ มีคนชงกาแฟถวาย แต่เผลอตักเกลือใส่แทนน้ำตาลหลวงพ่อจิบกาแฟไปหนึ่งคำ แล้วก็บอกโยมว่า " โอ้ดีเนาะ ดีๆ " แล้วก็วาง
ธรรมเนียมของหลวงพ่อขลังๆ เวลาท่านฉันอะไร ลูกศิษย์ก็ อยากได้บ้าง ว่ากันว่าเป็นสิริมงคลดีนักเรียงหน้ารอกันเป็นแถว ลูกศิษย์คนแรก ดื่มกาแฟก็พ่นพรวดออกมา
" เค็มปี๋เลยหลวงพ่อ ฉันเข้าไปได้ยังไง! "
" ก็ดีเนาะ ฉันกาแฟหวานๆมานาน " หลวงพ่อว่า " ฉันเค็มๆมั่งก็ดีเหมือนกัน "
ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก ลมแรง น้ำท่วม หรือคนด่า หลวงพ่อท่านมองไปในแง่ดีได้หมด
มีลูกศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งไปทำผิด ถูกจับไปติดคุก ท่านก็ว่า " ก็ดีเนาะ มันจะได้ศึกษาชีวิต "
ท่าน อาจารย์ประสงค์บอกว่า หลวงพ่อองค์นี้ ชื่ออะไร อยู่วัดไหน ตัวท่านเคยจดไว้ แต่ทำสมุดที่จดหายจำได้เพียงแต่ว่า คนอีสานเขาสรรเสริญท่านมาก
แม้ท่านจะชื่อจริงอะไร ก็คงไม่มีใครจำ เพราะต่างก็เรียกท่านว่า " หลวงพ่อดีเนาะ " กันหมดแล้ว
เรื่อง ของหลวงพ่อดีเนาะ เป็นหนึ่งตัวอย่างในเรื่อง " หักหอกเป็นดอกไม้ " ทุกข์สุข ดีเลวล้วนแล้วแต่อยู่ที่วิธีคิด ถ้าคิดเป็นบวก เรื่องก็ออกมาเป็นบวก...
หลวง พ่อดีเนาะ ” แห่งวัดมัชฌิมาวาส อุดรธานี ซึ่งมองโลกในแง่ดี ไม่เคยจับผิดใคร ไม่เคยว่าใคร … เจอปัญหาอะไรๆ ก็พูดว่า “ ดีเนาะ ” … จนกระทั่งได้รับพระราชทานสมณศักดิ์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เป็น “ พระเทพวิสุทธาจารย์ สาธุอุทานธรรมวาที ” ซึ่งแปลว่า ดีเนาะ
หลวงพ่อ ดีเนาะเป็นเกจิอาจารย์มีชื่อของจังหวัดอุดรธานี ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก ท่านมีลูกศิษย์ลูกหาและผู้เคารพนับถือทั่วประเทศ มีเรื่องเกี่ยวกับการบำเพ็ญบารมี และการประพฤติปฏิบัติตนของหลวงพ่อดีเล่าขานกันมากมายหลายเรื่องเช่นมีผู้ เล่าว่า เนื่องจากหลวงพ่อดีมีผู้เคารพนับถือมาก จึงมีผู้มาถวายจตุปัจจัยข้าวของเครื่องใช้ที่มีค่าแก่ท่านมากมาย ในกุฏิของหลวงพ่อดีจึงมีข้าวของเงินทองที่เตะตาล่อโจรให้อยากลองของมากมาย แต่ดูเหมือนว่าหลวงพ่อท่านไม่ค่อยจะสนใจวัตถุรอบกายของท่านแต่อย่างใดอยู่มา วันหนึ่ง หลวงพ่อดีก็ถูกขุนโจรใจโหดปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์มากมาย ถือปืนบุกเข้าประชิดตัวหลวงพ่อบนกุฏิพร้อมทั้งประกาศก้อง
“ นี่คือการปล้น อย่าได้ขัดขืนนะหลวงพ่อ ” หลวงพ่อดียิ้มกับโจรด้วยอารมณ์ดีและไม่มีอาการสะทกสะท้าน ท่านกล่าวกับโจรอย่างนิ่มนวลว่า
“ ปล้นก็ดีเนาะ ” โจรชักแปลกใจในคำพูดและท่าทีของหลวงพ่อ โจรพูดว่า
“ ถูกปล้นทำไมว่าดีละหลวงพ่อ ” หลวงพ่อดีตอบว่า
“ ทำไม่จะไม่ดีละ ก็ข้าต้องทนทุกข์ทรมานเฝ้าไอ้สมบัติบ้า ๆ นี้ตั้งนานแล้ว เอ็งเอาไปเสียให้หมดข้าจะได้ไม่ต้องเฝ้ามันอีก ” โจรขู่อีก
“ ไม่ใช่ปล้นอย่างเดียวฉันต้องฆ่าหลวงพ่อด้วย เพื่อปิดปากเจ้าทรัพย์ ” หลวงพ่อดีก็ตอบเหมือนเดิม
“ ฆ่าก็ดีเนาะ ” โจรแปลกใจจึงถามว่า
“ ถูกฆ่ามันจะดีได้อย่างไรละหลวงพ่อ ” หลวงพ่อดีตอบ
“ ข้ามันแก่แล้ว ตายเสียได้ก็ดี จะได้ไม่ทุกข์ร้อนอะไร ” โจรรู้สึกอ่อนใจเลยบอกว่า
“ ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ฆ่าหรอก ” หลวงพ่อดีก็พูดเหมือนเคย
“ ไม่ฆ่าก็ดีเนาะ ” โจรถามอีก
“ ทำไมฆ่าก็ดี ไม่ฆ่าก็ดีอีก ” หลวงพ่อดีบอกว่า
“ การ ฆ่ามันเป็นบาป เอ็งจะต้องชดใช้เวรทั้งชาตินี้และชาติหน้า อย่างน้อยตำรวจเขาจะต้องตามจับเอ็งเข้าคุก เข้าตะราง หรือไม่ก็ถูกฆ่าตาย ตายแล้วก็ยังตกนรกอีก ” โจรเลยเปลี่ยนใจ
“ ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ปล้นหลวงพ่อแล้ว ” หลวงพ่อดีก็ตอบอีกว่า
“ ไม่ปล้นก็ดีเนาะ ”
มี ผู้เล่าต่อมาว่า ในที่สุดโจรคนนั้นก็สำนึกบาปเข้ามอบตัวกับตำรวจ เมื่อพ้นโทษออกมาก็ขอให้หลวงพ่อดีบวชให้และบำเพ็ญศีลภาวนาตลอดมา ส่วนหลวงพ่อดีมีคนให้ฉายาท่านว่า “ หลวงพ่อดีเนาะ ” มาจนทุกวันนี้
ท่านมีตัวตนอยู่จริงครับ
พระเทพวิสุทธาจารย์ (หลวงปู่ดีเนาะ)
วัดมัชฌิมาวาส อ.เมือง จ.อุดรธานี
เรื่องหนึ่งที่ท่านเทศน์ เป็นเรื่องของหลวงพ่อวัดหนึ่ง ซึ่งขึ้นชื่อลือชากันว่า ท่านเป็นพระที่มีแต่ความสุข ไม่เคยมีความทุกข์
วัน หนึ่ง โยมมานิมนต์ท่านไปเทศน์ที่บ้าน บอกท่านว่าจะมารับแต่เช้า หลวงพ่อก็นั่งรอจนสายโยมก็ไม่มาสักที
หลวงพ่อก็ว่า " ไม่มา ก็ดีเหมือนกันเนาะ เราฉันข้าวของเราดีกว่า "
ฉันข้าวได้ไม่กี่คำ โยมก็มารับพอดี กราบกรานขอโทษที่มาช้า เหตุเพราะว่ารถเสีย
หลวงพ่อวางช้อน " อือ ก็ดีเนาะ ไปฉันที่งานเนาะ "
นั่ง รถไปได้สักพัก เครื่องรถก็ดับอีก คนขับบอก " รถเสียครับ " หลวงพ่อก็ว่า " ดีเนาะ ได้หยุดพักชมวิวเนาะ "
คนขับซ่อมเครื่องรถได้พัก ก็ออกปากขอให้หลวงพ่อช่วยเข็นรถ
ความจริงหลวงพ่อก็แก่ ข้าวก็ฉันได้ไม่กี่คำ แต่ทานก็ยิ้ม บอกว่า " โอ้ดีเนาะ ได้ออกกำลังเนาะ "
แล้วก็ขมีขมันออกแรงช่วยเข็นรถจนวิ่งได้
ไปถึงบ้านงาน เวลาเลยเที่ยง หมดเวลาฉันอาหารไปแล้ว เป็นอันว่า วันนั้นหลวงพ่ออดข้าว เจ้าภาพก็ร้อนใจ
อะไรๆก็เลยเวลามานาน นิมนต์ท่านขึ้นเทศน์ทันที
" ดีเนาะ มาถึงก็ได้ทำงานเลยเนาะ "
หลวง พ่อว่าแล้วก็ขึ้นธรรมมาสน์เทศน์จนจบ มีคนชงกาแฟถวาย แต่เผลอตักเกลือใส่แทนน้ำตาลหลวงพ่อจิบกาแฟไปหนึ่งคำ แล้วก็บอกโยมว่า " โอ้ดีเนาะ ดีๆ " แล้วก็วาง
ธรรมเนียมของหลวงพ่อขลังๆ เวลาท่านฉันอะไร ลูกศิษย์ก็ อยากได้บ้าง ว่ากันว่าเป็นสิริมงคลดีนักเรียงหน้ารอกันเป็นแถว ลูกศิษย์คนแรก ดื่มกาแฟก็พ่นพรวดออกมา
" เค็มปี๋เลยหลวงพ่อ ฉันเข้าไปได้ยังไง! "
" ก็ดีเนาะ ฉันกาแฟหวานๆมานาน " หลวงพ่อว่า " ฉันเค็มๆมั่งก็ดีเหมือนกัน "
ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก ลมแรง น้ำท่วม หรือคนด่า หลวงพ่อท่านมองไปในแง่ดีได้หมด
มีลูกศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งไปทำผิด ถูกจับไปติดคุก ท่านก็ว่า " ก็ดีเนาะ มันจะได้ศึกษาชีวิต "
ท่าน อาจารย์ประสงค์บอกว่า หลวงพ่อองค์นี้ ชื่ออะไร อยู่วัดไหน ตัวท่านเคยจดไว้ แต่ทำสมุดที่จดหายจำได้เพียงแต่ว่า คนอีสานเขาสรรเสริญท่านมาก
แม้ท่านจะชื่อจริงอะไร ก็คงไม่มีใครจำ เพราะต่างก็เรียกท่านว่า " หลวงพ่อดีเนาะ " กันหมดแล้ว
เรื่อง ของหลวงพ่อดีเนาะ เป็นหนึ่งตัวอย่างในเรื่อง " หักหอกเป็นดอกไม้ " ทุกข์สุข ดีเลวล้วนแล้วแต่อยู่ที่วิธีคิด ถ้าคิดเป็นบวก เรื่องก็ออกมาเป็นบวก...
หลวง พ่อดีเนาะ ” แห่งวัดมัชฌิมาวาส อุดรธานี ซึ่งมองโลกในแง่ดี ไม่เคยจับผิดใคร ไม่เคยว่าใคร … เจอปัญหาอะไรๆ ก็พูดว่า “ ดีเนาะ ” … จนกระทั่งได้รับพระราชทานสมณศักดิ์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เป็น “ พระเทพวิสุทธาจารย์ สาธุอุทานธรรมวาที ” ซึ่งแปลว่า ดีเนาะ
หลวงพ่อ ดีเนาะเป็นเกจิอาจารย์มีชื่อของจังหวัดอุดรธานี ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก ท่านมีลูกศิษย์ลูกหาและผู้เคารพนับถือทั่วประเทศ มีเรื่องเกี่ยวกับการบำเพ็ญบารมี และการประพฤติปฏิบัติตนของหลวงพ่อดีเล่าขานกันมากมายหลายเรื่องเช่นมีผู้ เล่าว่า เนื่องจากหลวงพ่อดีมีผู้เคารพนับถือมาก จึงมีผู้มาถวายจตุปัจจัยข้าวของเครื่องใช้ที่มีค่าแก่ท่านมากมาย ในกุฏิของหลวงพ่อดีจึงมีข้าวของเงินทองที่เตะตาล่อโจรให้อยากลองของมากมาย แต่ดูเหมือนว่าหลวงพ่อท่านไม่ค่อยจะสนใจวัตถุรอบกายของท่านแต่อย่างใดอยู่มา วันหนึ่ง หลวงพ่อดีก็ถูกขุนโจรใจโหดปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์มากมาย ถือปืนบุกเข้าประชิดตัวหลวงพ่อบนกุฏิพร้อมทั้งประกาศก้อง
“ นี่คือการปล้น อย่าได้ขัดขืนนะหลวงพ่อ ” หลวงพ่อดียิ้มกับโจรด้วยอารมณ์ดีและไม่มีอาการสะทกสะท้าน ท่านกล่าวกับโจรอย่างนิ่มนวลว่า
“ ปล้นก็ดีเนาะ ” โจรชักแปลกใจในคำพูดและท่าทีของหลวงพ่อ โจรพูดว่า
“ ถูกปล้นทำไมว่าดีละหลวงพ่อ ” หลวงพ่อดีตอบว่า
“ ทำไม่จะไม่ดีละ ก็ข้าต้องทนทุกข์ทรมานเฝ้าไอ้สมบัติบ้า ๆ นี้ตั้งนานแล้ว เอ็งเอาไปเสียให้หมดข้าจะได้ไม่ต้องเฝ้ามันอีก ” โจรขู่อีก
“ ไม่ใช่ปล้นอย่างเดียวฉันต้องฆ่าหลวงพ่อด้วย เพื่อปิดปากเจ้าทรัพย์ ” หลวงพ่อดีก็ตอบเหมือนเดิม
“ ฆ่าก็ดีเนาะ ” โจรแปลกใจจึงถามว่า
“ ถูกฆ่ามันจะดีได้อย่างไรละหลวงพ่อ ” หลวงพ่อดีตอบ
“ ข้ามันแก่แล้ว ตายเสียได้ก็ดี จะได้ไม่ทุกข์ร้อนอะไร ” โจรรู้สึกอ่อนใจเลยบอกว่า
“ ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ฆ่าหรอก ” หลวงพ่อดีก็พูดเหมือนเคย
“ ไม่ฆ่าก็ดีเนาะ ” โจรถามอีก
“ ทำไมฆ่าก็ดี ไม่ฆ่าก็ดีอีก ” หลวงพ่อดีบอกว่า
“ การ ฆ่ามันเป็นบาป เอ็งจะต้องชดใช้เวรทั้งชาตินี้และชาติหน้า อย่างน้อยตำรวจเขาจะต้องตามจับเอ็งเข้าคุก เข้าตะราง หรือไม่ก็ถูกฆ่าตาย ตายแล้วก็ยังตกนรกอีก ” โจรเลยเปลี่ยนใจ
“ ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ปล้นหลวงพ่อแล้ว ” หลวงพ่อดีก็ตอบอีกว่า
“ ไม่ปล้นก็ดีเนาะ ”
มี ผู้เล่าต่อมาว่า ในที่สุดโจรคนนั้นก็สำนึกบาปเข้ามอบตัวกับตำรวจ เมื่อพ้นโทษออกมาก็ขอให้หลวงพ่อดีบวชให้และบำเพ็ญศีลภาวนาตลอดมา ส่วนหลวงพ่อดีมีคนให้ฉายาท่านว่า “ หลวงพ่อดีเนาะ ” มาจนทุกวันนี้
ท่านมีตัวตนอยู่จริงครับ
พระเทพวิสุทธาจารย์ (หลวงปู่ดีเนาะ)
วัดมัชฌิมาวาส อ.เมือง จ.อุดรธานี
29.6.54
24.6.54
16.6.54
อันเนื่องมาก ผบ.ทบ.
แหม ฟัง ผบ.ทบ. พูดทีไรต้องกด Like !!! ให้ทุกที เพราะพี่แกคนจริง เข้าข่ายพูดน้อยต่อยหนัก เน้นๆ เนื้อๆ แล้วแกเป็นคนตรงนะผมว่า คือไม่ยอมให้กับความไม่ถูกต้อง แล้วคนยังงี้นะ ถ้าโดนใครใส่ร้ายละก้อ เป็นได้เห็นดีกัน
 |
| เด๋วมึงโดน |
พอพูดไปไม่ทันไร ตามประสานักข่าวที่ชอบเสี้ยมให้คนเค้าตีกัน และกลัวจะไม่มีเรื่องให้เขียนข่าว ก็ต้องไปสัมภาษณ์พรรคเผาไทยในทันที และในบัดดลคนของพรรคเผาเมืองปัดกันให้พัลวันว่าไม่เกี่ยวกับโพ้ม...ยิ่งอ่านหมาปอดบอกว่า นายใจออกไปก่อนตั้งพรรคเพื่อไทย เช่นเดียวกับเจ๊เพ็ญ เรียกว่าสีข้างถลอกกันทีเดียว คงมีแต่ควายเท่านั้นที่มองไม่ออกว่ามันเกี่ยวเนื่องกันมายาวนาน แยกกันเดิน ร่วมกันตี มึงบน กูล่าง เรียกว่าจัดเต็มทุกสาย
ผมชอบที่คุณเปลวสีเงินบอกว่า "เคยไปดูเขาสวด "ภาณยักษ์" ตามวัดกันมั้ย ถ้าไม่เคยไปก็คงเคยเห็นตามข่าวหน้าจอโทรทัศน์บ้างหรอก พอพระขึ้นบทอาฏานาฏิยปริตรว่า...วิปัสสิสสะ นะมัตถุ....เท่านั้นแหละ ไม่ว่าผู้หญิง-ผู้ชาย ไม่ว่าหนุ่มสาว-เฒ่าแก่ หลายๆ คนนั่งพนมมือฟังอยู่ดีๆ
ดิ้นตูมเลย!ภาณยักษ์เป็นการสวดมนต์ไล่ผี ไล่ยักษ์ ไล่มาร ไล่เสนียดจัญไร ที่สิงอยู่ในตัวคน ในบ้าน-ในเมืองให้ออกไป ใครที่เคยถูกของ มีของ เล่นของ ถูกผี-ถูกมารสิง เมื่อได้ยินพระปริตรนี้ก็กลัว นั่งตัวสั่น และสั่นๆๆๆๆๆ แล้วดิ้นตูมตาม ส่งเสียงร้องเหมือนเปรต-เหมือนปอบ วัดแทบแตก
ในขณะที่คนผีไม่สิง ไม่เห็นกงจักรเป็นดอกบัว เป็นพลเมืองมีศีล-มีธรรม เขาจะไม่มีอาการสั่น หรือดิ้นตูมตาม-ร้องโวยวายเพราะกลัวเสียงพระสวดเหมือนพวกถูกมาร-ถูกผีสิง เขาจะนิ่งสงบ ปีติเอิบอาบต่อการได้ฟังบทสวดที่ขานถึงแต่ละพระนามของพระพุทธองค์จากพระปริตรนั้น
ดังนั้น คนที่ฟังคำพูดของพลเอกประยุทธ์แล้วดิ้น ร้องโหยหวนก็เป็นพวก "มารสิง-คนถูกของ" นั่นแล!"
เอาเป็นว่าใครร้อนตัวทีผบ.ทบ. พูดละก้อแสดงว่ามันเป็น คนไม่ดีอย่างที่ว่า 555
9.6.54
9 มิ.ย. 54 ครบรอบ 65 ปีในหลวงทรงขึ้นครองราชย์
เป็นเรื่องที่น่าปลื้มปิติอีกเรื่องนึง เนื่องจากวันนี้เป็นวันครบรอบ 65 ปีการขึ้นครองราชย์ของในหลวง ผู้ทรงเป็นทุกสิ่งอย่างในประเทศไทย
พาลทำให้นึกถึงครั้งเมื่อพระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ใหม่ แล้วทรงจะเสด็จกลับไปศึกษาต่อ ขากลับจากวัดพระแก้ว พสกนิกรท่าหนึ่งตะโกนว่า " อย่าละทิ้งประชาชน !!! " ในไดอารี่ของพระองค์ได้บันทึกไว้ว่า "ถ้าประชาชนไม่ 'ทิ้ง' ข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าจะ 'ละทิ้ง' อย่างไรได้" ตลอดเวลาที่ทรงครองราชย์ไม่มีวันไหนที่ท่านหยุดทรงงานเลยถ้าไม่ได้ประชวร แถมจากการที่ทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฎร ครั้งหนึ่งยังทรางติดไข้ป่ามาด้วยและยังคงมีผลกับพระวรกายมาถึงทุกวันนี้
เมื่อเดือนที่แล้ว ท่านรับสั่งกับฟ้าหญิงว่า " อีก 2 เดือนพ่อจะเดินให้ดู " ขอเป็นกำลังใจให้พระองค์หายวันหายคืนกลับมาเสด็จไปเยี่ยมไพร่ฟ้าประชาราษฎ์ ดังเช่นที่เราเคยเห็นชินตาเถิด...ทรงพระเจริญ!!!
7.6.54
June Bride
ความเชื่อเรื่อง “เจ้าสาวเดือน มิ.ย.” หรือ June Bride เป็นความเชื่อและธรรมเนียมของวัฒนธรรมตะวันตก ที่มาของธรรมเนียมและความเชื่อนี้สืบสาวไปตั้งแต่สมัยโรมัน....
เดือน มิ.ย. เป็นเดือนที่ประเทศทางแถบอเมริกาเหนือและอีกหลายๆ ที่ทั่วโลกนิยมจัดพิธีแต่งงาน ทำไมใครๆ ถึงเลือกแต่งงานในเดือนนี้
ความเชื่อเรื่อง “เจ้าสาวเดือน มิ.ย.” หรือ June Bride เป็นความเชื่อและธรรมเนียมของวัฒนธรรมตะวันตก ที่มาของธรรมเนียมและความเชื่อนี้สืบสาวไปตั้งแต่สมัยโรมัน ซึ่งเป็นต้นตำรับของธรรมเนียมพิธีกรรมต่างๆ เหตุที่ชาวโรมันชอบจัดพิธีแต่งงานในเดือน มิ.ย. ก็เพราะเดือน มิ.ย. เป็นเดือนที่อุทิศแด่เทพีจูโน (หรือเฮรา) ผู้เป็นเทพีแห่งการแต่งงานและชีวิตสมรส และเป็นมเหสีของเทพเจ้าจูปิเตอร์ (ซุส) ดังจะเห็นได้ว่าคำว่าเดือน มิ.ย. ในภาษาอังกฤษคือ June (จูน) ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งตามชื่อของเทพีจูโน (Juno) นั่นเอง
ด้วยเหตุนี้จึงมีความเชื่อว่าหากคู่บ่าวสาวแต่งงานกันในเดือนนี้ก็จะมีชีวิตคู่ที่เปี่ยมไปด้วยความสุขภายใต้พรและการคุ้มครองดูแลของเทพีจูโน และที่เรียกธรรมเนียมนี้ว่า Juno Bride ก็เพราะเทพีจูโนคือเทพีแห่งจิตใจ บ้าน และการหล่อเลี้ยงครอบครัว และเป็นเทพีผู้อุปถัมภ์ของผู้ที่เป็นภรรยาด้วย แล้วความเชื่อนี้ก็ได้สืบทอดต่อกันมานับหลายร้อยปี ด้วยคำมั่นว่าการปฏิบัติตามธรรมเนียมดังกล่าวจะนำความสุขและโชคลาภมาสู่การก้าวเข้าไปสู่ชีวิตแต่งงานของคู่รัก ซึ่งถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของชีวิตอีกขั้นหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ความเชื่อดังกล่าวจึงยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้
และสำหรับเดือน มิ.ย. อันทรงความหมายสำหรับด้านความรักเช่นนี้ ลองมาดูสิว่าในแง่ของฮวงจุ้ย เดือนนี้มีความหมายอย่างไรบ้าง และคุณสามารถทำอะไรในเดือนนี้ได้บ้างเพื่อเสริมโชคด้านความรัก
ก่อนอื่นให้ใส่ใจที่ทิศตะวันตกเฉียงใต้อันเป็นตำแหน่งของไทรแกรมคุน ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้เป็นแม่หรือผู้นำครอบครัวฝ่ายหญิง ทิศนี้จะเป็นมงคลสำหรับโชคด้านความสัมพันธ์เป็นพิเศษในเดือนนี้ ด้วยอิทธิพลของดวงดาวประจำเดือนที่เข้ามาในทิศดังกล่าว จึงมีแนวโน้มในเรื่องของความรักและการแต่งงานสำหรับหลายๆ คู่
สัญลักษณ์อักษรคู่แห่งความสุข
สำหรับชาวจีนแล้ว พิธีแต่งงานเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก และเต็มไปด้วยพิธีกรรมและสัญลักษณ์มงคลต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะสัญลักษณ์อักษรคู่แห่งความสุข ซึ่งสื่อถึงความสุขในชีวิตสมรส ดังนั้นการวางสัญลักษณ์ดังกล่าวไว้ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้านหรือมุมทิศตะวันตกเฉียงใต้ของห้องที่สำคัญในบ้าน ก็จะช่วยกระตุ้นและเสริมสร้างโชคด้านชีวิตแต่งงานได้!ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้านคุณขาดหายไปหรือเปล่า
คุณต้องไม่ลืมว่าหากทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้านขาดหายไป ก็จะส่งผลกระทบที่ทำให้คนในบ้าน โดยเฉพาะหญิงสาวอับโชคในด้านการแต่งงาน ดังนั้นจึงควรตรวจดูให้แน่ใจ
กระตุ้นทิศตะวันตกเฉียงใต้เพื่อเสริมโชคด้านความรักและการแต่งงาน
นอกจากสัญลักษณ์อักษรคู่แห่งความสุขแล้ว ก็ยังสามารถใช้สัญลักษณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความรักได้ด้วย เช่น หงส์และมังกร นกคู่ เป็ดแมนดารินคู่ ตุ๊กตาเจ้าบ่าวเจ้าสาว ลูกโลกคริสตัล (สื่อถึงความสมัครสมาน รักใคร่ปรองดอง) ดอกโบตั๋นแดง ฯลฯ เป็นต้น และอย่าลืมติดตั้งไฟสว่างๆ ส่องไปยังมุมดังกล่าวด้วย
การกระตุ้นทิศตะวันตกเฉียงใต้อย่างถูกวิธี จะช่วยดึงดูดพลังหยางอันทรงพลังมาให้ โอกาสด้านเนื้อคู่และความสุขในชีวิตแต่งงานจะเกิดขึ้นกับคุณอย่างแน่นอน แค่เพียงลงมือทำ และในขณะเดียวกันก็คอยดูแลมุมดังกล่าวไม่ให้มีของเกะกะหรือสิ่งใดๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อโชคประจำทิศตะวันตกเฉียงใต้ด้วย
ขอขอบคุณ มิสไอรีน จาาก นสพ.โพสต์ทุเดย์ เอื้อเฟื้อเรื่อง
2.6.54
30.5.54
Thailand's got bullshit จริงๆ ( 3 )
แหมอย่างที่เคยพูดถึงรายการ Thailand's Got Talent นี้ในบทความก่อนๆ ว่าสมควรที่จะมีเรื่องวิจารณ์มากมายในหลายแง่มุมของการตัดสินผู้เข้ารอบแต่ละรอบจนมาถึงวันตัดสินแชมป์ ก็ยังมีเรื่องเซอร์ไพรซ์สุดๆ
พอดีกลับบ้านช้าไปหน่อย เปิดมา เค้าก็ยืนกัน 3 ทีมแล้วพร้อมจะประกาศผลแล้ว อึ้งไปเลยเหมือนกันที่น้องไมร่า และพี่สมศักดิ์ เข้ารอบสามทีมสุดท้าย อันนี้ไม่ได้ดูถูกพี่สมศักดิ์นะ ผมนับถือพี่มากเลย เกิดมายังไม่เคยเห็นใครเล่นกีต้าร์แบบนี้มาก่อนในชีวิต ส่วนคิดบวกสิปป์นั้น อยู่ในใจผมตั้งแต่รอบ 48 ทีมแล้วว่ายังงัยก็ต้องเข้ารอบวะ แถมยังยกให้เป็นเต็งหนึ่งด้วย เอาก็เอาวะ รายการเค้าอยากทำแบบน้เราเป็นผู้บริโภคก็ต้องว่ากันไป จะเลือกอะไรนักหนา ตอนประกาศที่ 3 เนี่ยผมคิดว่าเป็นพี่สมศักดิ์แน่ ปรากฏว่าต้องตกเก้าอี้เลย ทีมรักต้องมากระเด็นตกรอบ เหลือพี่สมศักดิ์กะน้องไมร่า บอกตามตรงนาทีนั้นผมก็คิดว่าเป็นน้องไมร่าชัวร์ หนึ่งคือน้องเค้าร้องเพลงโอเปร่าได้ดีเสียงเพราะ มันเอาไปต่อยอดได้ ขายได้ เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ยาสระผมผู้สนับสนุนได้ ออกเทปได้ ฯลฯ
 |
| ทีมในดวงใจ คิดบวกสิปป์ |
โดยส่วนตัวแล้วถ้าเทียบกับมาตรฐานการตัดสินในรอบที่ผ่านๆ มา ต้องยอมรับว่านักร้องที่เข้ารอบมาด้วยการร้องเพลงฝรั่งโชว์พลังเสียงนั้นมีภาษีดีกว่า ยิ่งหนังหน้าอย่างน้องเค้าด้วยละก้อ เปอร์เซ็นต์สูง แต่ก็มีนะที่ร้องเพลงฝรั่งแล้วฟังยากๆ ต้องตกรอบไปด้วยเหตุผลว่าฟังไม่รู้เรื่อง คนดูไม่อินไปกับเพลง ซึ่งน้องเค้าน่าจะอยู่ในข่ายหลังนี้ นั่นเองที่ทำให้ผมไม่คิดว่าน้องจะเข้ารอบลึกจนเป็น The Winner แต่ก็อย่างที่บอกวรรคก่อนนี้ น้องเค้ามีสตอรี่ มีจุดขายเยอะมาก
เมื่อเทียบกับเงินรางวัลแล้วผมละอดสงสัยไม่ได้จริงว่า ฐานะทางบ้านมีส่วนแค่ไหน หรือการลงทุนโหวตครั้งนี้มันคุ้มค่านะถ้าชนะเงินรางวัล ลองคิดเล่นๆ นะครับ โหวตครั้งละ 3 บาท เงินรางวัล 10 ล้านบาท คนดูทั้งประเทศซัก 5 ล้านคน คนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโหวตซัก 20 % เท่ากับ 1 ล้านโหวต (บ้านผมดูกันตั้ง 4 คน กดโหวตไป 1 ครั้ง) ถ้าควักตังซัก 3 ล้าน มาโหวตมันน่าจะเพียงพอต่อการชนะเนอะ คุณว่ามะอย่างน้อยยังมีเงินสดๆ อีก 2 ล้าน คอนโดและรถอีก มองยังงัยก็คุ้มถ้าใจถึงพอ และอีกอย่างผลโหวตที่เราไม่เคยได้รับรู้ว่าใครได้เท่าไหร่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถพลิกคำตัดสินได้ เพราะรายการสามารถตัดใครออกก็ได้เพื่ือให้รายการมันน่าติดตาม น่าลุ้น เหมือนกำกับละครไทย
ประเด็นสุดท้าย ผมสงสัยว่าอันดับ 2 และ 3 นั้นได้อะไรติดมือไปบ้าง เงินปลอบใจมีมะ หรือได้แต่ชื่อเสียง ซึ่งอาจจะมีงานโชว์ตัวที่มากขึ้นตามความนิยมที่ได้ออกทีวี
28.5.54
25.5.54
ตั้งโจทย์ผิด ก็ไม่ต้องสนใจคำตอบแล้ว
เปิดตัวกันไปแล้ว เป็นไงบ้างครับสาวสวยของเรา น้องสาวของใคร อย่างที่บอกพี่ชายสุดเหี้ย(ม) หมดมุก จนตรอก จนต้องใช้น้องสาวคนสวยเป็นไพ่ใบสุดท้ายเพื่อเบิกทางกลับมาเอาดินประเทศไทยคลุมหน้า
เมื่อคุณออกมาอยู่ในที่แจ้ง ก็ธรรมดาที่จะต้องโดนขุดคุ้ยสารพัด อันนี้ก็ต้องรับให้ได้ เรื่องบางเรื่อง ไม่เห็นจะหนักหัวใครมันยังเอามาเป็นเรื่องได้ ก็ว่ากันไป
วาทกรรมตลอดเกือบสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่ละคำนั้นฟังแล้วจั๊กกะจี้หวะ ขอยกตัวอย่างซัก 2 - 3 ประโยค นะ " ครอบครัวดิฉันเป็นหนี้ประชาชนค่ะ " อันนี้ผมจะขอบคุณแม่ปูมากเลย เพราะถ้าสำเหนียกเยี่ยงนั้นจริงละก้อ รบกวนเอาเงินที่ครอบครัวมึงโกงมาทั้งหมด เอาแจกจ่ายให้กับประชาชนเลยดีกว่า อย่าเสียเวลาาหาเสียงให้เมื่อยตุ้ม " ดิฉันโคลนนิ่งพี่ชายมาเลยค่ะ " อันนี้หมายรวมถึงความเลวแบบทักษิณด้วยชิมิ " นี่ขนาดน้องมายังซึ้งใจขนาดนี้ถ้าอ้าย(เหี้ย) มาจะขนาดไหน " จริงๆแล้วแม่ปูคงไม่ต้องลำบากถ้าพี่ชายทำตามที่บอกว่าถ้าเสียงปืนแตกเมื่อไหร่จะไปเดินนำหน้าพี่น้องครับ เป็นต้น
ไล่เรียงมาซะยาวยืดยังไม่เข้าหัวข้อซักที เพราะมันคันปากอยากเล่าจิงๆ ก็ขอเริ่มหัวข้อเลยว่าโจทย์จริงๆมันคืออะไร สำหรับการหาเสียงครั้งนี้ครับพี่น้อง จะเข้ามารับใช้ประชาชนใช่หรือไม่ จะเข้าแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องใช่หรือไม่ หรือจะเข้ามาแก้กฏหมายนิรโทษกรรมให้พี่ชาย นี่คือแก่นแท้ของเรื่องราวทั้งหมดครับ ถ้าเราตั้งโจทย์การเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนี้อย่างถูกต้อง เราก็จะได้คำตอบที่ถูกต้องครับ ว่าเราจะได้ผู้แทนของเราแบบไหน แต่ถ้าเลือกตั้งเพื่อเอาใครกลับบ้าน ขอบอกว่าโจทย์ผิดครับ เพราะถ้าอยากกลับบ้านซะอย่าง มึงก็กลับมา กลับมาติดคุกก่อนแล้วจะอุทธรณ์อะไร ก็ว่ากันไป ไม่ต้องกลัวเรื่องความปลอดภัยหรอกครับถ้าจะมีสไนเปอร์ส่องหัวมึงละก้อมันสอยมึงตั้งนานแล้วโดยเฉพาะครั้งล่าสุดที่มึงเผาบ้านกู ถ้ากูมีเงินกูจ้างแม่งไปแล้ว
สุดท้าย กรรมเป็นเครื่องแสดงเจตนาครับ จะเข้ามาเพื่อประชาชนหรือพวกพ้อง พี่น้องดูกันไม่ยาก
เอ้าอยากให้ประเทศไทยเป็นแบบไหน ออกไปเลือกตั้งกันนะครับ (โดยเฉพาะพวก 50%)
21.5.54
20.5.54
ว่าที่ รมต.จตุพร และ ว่าที่รมต.ณัฐวุฒิ
คุณลองนึกภาพประเทศชาติจะเป็นอย่างไร ถ้าพรรคเผาไทยได้เป็นรัฐบาลครับ !!!!!!!!!!!
เหล่าบรรดากองเชียร์ควายแดงคงได้เฮกันไปยกแรกหลังจากนารีขี่ควายแดงจับติ้วได้เบอร์ 1 สมใจและสะใจควายแดง ไม่น่าเชื่อเนอะว่า She แรงส์ มากที่กล้ามาลงเลือกตั้งขอเป็นนายกหญิงคนแรกของประเทศไทย ไม่รู้่โง่หรือบ้าหรือพี่เหลี่ยมเป่าหูมาอีท่าไหน ถึงใจอ่อนยอมหลวมตัวมาเกลือกกลั้วกะไอ้พวกตั่วเฮียทั้งหลาย มันทำให้คิดไปได้ว่าพี่เหลี่ยมนี่จิตใจโหดเหี้ย(ม) จิงๆ ที่เอาชีวิตและความสุขสบายของน้องสาวแท้ๆ มาแลกกับโอกาสที่มันจะได้กลับมา นี่คนในครอบครัวมันยังทำได้แล้วพวกคายแดงทั้งหลายจะรอดรึ
มาว่ากันถึงบัญชีรายชื่อที่พรรคเผาไทยส่งมา ก็ได้แต่อุทานว่า OMG!!! แสดงให้พี่น้องชาวไทยได้เห็นว่าควายแดงและเผาไทยนั้นสนิทแนบแน่นยิ่งกว่ากาวตราช้าง และเผาไทยก้อตอบแทนบุญคุณอย่างสาสมกับฝีมือขั้นเทพที่สามารถเผากรุงเทพได้อย่างกะหนังฮอลลีวู้ด มีควายแดงเข้ามาอยู่ในลิสต์ถึง 20 ตัว แถมยังอันดับต้นๆ เริ่มตั้งแต่ ตุ๊ดตู่มาแรงยึดแท่นที่อันดับ 8 ตามมาด้วยไอ้เต้นที่ 9 และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่ละเหี่ยใจก้อคือ ถึงแม้พี่กี้ของเราจะไม่อยู่แต่ไม่มีวันที่จะลืมคุณงามความดียังอุตส่าถีบเมียพี่กี้มาอยู่ในลิสต์อันดับที่ 27 กะเค้าด้วย คือแม่มได้เป็นชัวร์
 |
| อนาตคตชาติไทยในมือคุณ |
สุดท้ายอนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่างไรครับพี่น้องงงง ถ้าพรรคเผาไทยได้เป็นรัฐบาล นึกภาพคณะรัฐมนตรีออกกันมั๊ยครับพี่น้อง ตุ๊ดตู่อาจจะได้เป็นรมต.กระทรวงศึกษาธิการ ไอ้เต้นอาจจะเป็นรมต.วัฒนธรรม ส่วนเด็จพี่อันนี้ชัวร์โฆษกรัฐแน่นอน นึกภาพออกมั๊ยครับว่าคนเหล่านี้จะได้เป็น รมต. ประเทศชาติจะเป็นอย่างไร บัดซบ ชิปหาย แค่ไหน ความเสียหายน่าจะมากกว่าที่มันเผากรุงเทพหลายร้อยเท่านัก
พวกคุณคิดเอาแล้วกันอยากให้ประเทศเป็นแบบไหน 3 ก.ค. นี้เลือกเอา
9.5.54
Thailand's got bullshit (2)
คิดไว้แล้วเชียวว่ารายการนี้จะต้องมีอะไรให้พูดถึงอีกเยอะ สัปดาห์ที่ผ่านเป็นไงกันบ้างมิตรรักแฟนเพลง ? ได้ใจมะ
ที่ต้องบอกอย่างนี้เพราะ TGT อาจจะเป็นรายการที่เปิดโอกาสให้กับนักร้องมากที่สุดก็ว่าได้ อุตส่าห์ตั้งชื่อว่า Talent ไม่ได้ตั้งว่า Singing contest นะ
ถ้าพิจารณาแล้วช่างน่าโชคร้ายที่มีทีม Percussion และ นักร้องอย่างละ 2 ทีม ซึ่งหลีกเลียงไม่ได้ที่จะต้องตัดคะแนนกันเอง สัปดาห์นี้ต้องเรียกได้ว่าสูสีดูไม่ออกจริงๆ ว่าใครจะได้เข้ารอบไปแต่พอประกาศคนแรกเท่านั้นแหละครับคนต่อไปก็พอจะเดาได้รางๆ พอยิ่งเลือก 2 คนสุดท้ายเพื่อคัดออกผมเดาได้เลยว่าใครจะได้ อย่างที่บอกคนไทยมีจิตใจเอิ้อเฟิ้อมีความสงสารเต็มเปี่ยม พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก อย่างพี่ปี่โศกเนี่ย ด้วยความเคารพนะครับพี่ ผมไม่มีเจตนาจะดูถูกอะไรพี่หรอกนะครับ ผมว่าพี่ก็เก่งระดับนึงเลยแหละ แต่ที่นี่มันคือการประกวดแข่งขัน แค่นี่อาจจะยังไม่ดีพอครับพี่ แต่เผอิญเสี่ยตาเค้าชอบดราม่า มีสตอรี่ มีเรื่องราว มีจุดขายว่างั้นเถอะพี่ ผมจึงฟันธงกะที่บ้านเลยว่าน้องลูกปลาที่ถึงแม้จะเป็นนักร้องตามคอนเซปท์ ก็ต้องมีอันพ่ายแพ่แก่พี่อย่างแน่นอน และมันก็เป็นเรื่องจริงเฉกเช่นเดียวกับน้องเบลล์ กะเทย 2 เสียงที่มีจุดขาย ( ที่คุณภิญโญบอก นางโชวทั่วไปก็ทำได้ )
สรุปว่ารายการ TGT เวอร์ชั่นเมืองไทยนั้น ต้องชมทีมงานจริงๆ ครับที่สามารถดัดแปลงรายการระดับโลกให้เข้ากับรสนิยมของคนไทย ( ที่ชอบดูละครม๊าก ) เพราะมันมีทุกรสชาติจริง นี่ถ้ามีตบตี ตบจูบ ละก้อครบเลยครับพี่น้อง
5.5.54
ฮุนเซ็งบอก เป็นคืนแรกที่เสียงปืนสงบตั้งแต่ไทยรุกรานเมื่อ 22 เมษ.
ฮุนเซนกล่าวว่า "นับเป็นคืนแรกที่เสียงปืนสงบอย่างแท้จริง ตั้งแต่ฝ่ายไทย "รุกราน" กัมพูชาในวันที่ 22 เม.ย. ที่ชายแดนด้านปราสาทตาเมือนกันกับปราสาทตาควาย และดำเนินเรื่อยมาจนถึงวันที่ 3 พ.ค.นี้ "
มันเป็นตลกฝืดสิ้นดี ฟังเสียงมันแล้วเหมือนเสียงเห่าหอนของตัวไรซักอย่าง แบบนี้มันน่าจะใช้ดาวเทียมดูอย่างที่มันบอกว่า ให้ใช้ดูว่าใครเป็นคนยิงมันจะได้หยุดเห่าซักที
ความเห็นแก่ตัวของมันทำให้สงสารประชาชนชาวกัมพูชาที่มีผู้นำที่เลวชาติอย่างนี้ ที่หนักกว่านั้นก็คือทหารกัมพูชา ที่ได้ออกข่าวเมื่อวันก่อนว่าถอดใจย้ายกลับไปอยู่รูแล้ว เนื่องจากเสบียงขาดแคลนและทหารที่ล้มตายไม่มีการเก็บศพไปทำพิธีการทางศาสนา ปล่อยให้เน่าตายอยู่อย่างนั้น จิตตกเลยนะ ขณะยิงรบกันมองไปข้างๆ เห็นเพื่อนนอนเน่าตาย มันคงคิดในใจวันพรุ่งนี้ศพต่อไปอาจเป็นกู เท่าที่ทราบทหารจริงๆที่นำโดยลูกหมา ฮุนมาเนต มีแค่ 700 กว่าเท่านั้น ที่เหลืออีก 14,000 นายเป็นทหารรับจ้าง ไม่ต้องพูดถึงสวัสดิการบ้าบออะไร เพราะฉะนั้นมันจะใช้สู้ไปทำแมวอะไรถอยดีกว่าครับพี่
 |
| ทหารไทยต้องช่วยเก็บศพแนวจุดปะทะ ไม่รู้ข้อตกลงหยุดยิงที่ไปคุยกันเนี่ย มันเป็นข้อตกลงแบบไหน หรือว่าเป็นข้อตกลงยิงไม่หยุดครับพี่ เพราะหลายครั้งที่ได้เจรจาให้หยุดยิงแต่พอเดินหันหลัง แม่มก็ยิงซะงั้น เสร็จแล้วก็ออกมาแถว่า เป็นทหารนอกแถวที่ไม่ฟังคำสั่ง อ้างไปเรื่อย คงจะจริงอย่างที่มันพ่นออกมา เพราะทหารรับจ้างพวกนี้คงจะฟังภาษามันไม่ออก ล่าสุดตกลงหยุดยิงกันครั้งที่เท่าไหร่ไม่ทราบได้ แถมยังเปิดด่านอีก สงสัยมันคงอดอยากจริงๆ ถึงยอมหยุดยิง พอเข้ามาซื้อของเสร็จ เสบียงพร้อมก็ค่อยมายิงกันใหม่ จบข่าว |
3.5.54
โหมดเลือกตั้งทำงาน เรากำลังอยู่บนเขาควาย
ประเทศไทยกำลงจะเข้าสู่การเลือกตั้งแล้วครับพี่น้อง ดูอาการแล้วไม่น่าเกินสัปดาห์นี้ ยกเว้นมีเงื่อนไขพิเศษจากไอ้ฮุนเซ็ง ที่จะทำให้ความไม่สงบมาเป็นข้ออ้าง
จับอาการตัวเองและผู้คนรอบข้างได้ข้อสรุปอย่างนึงว่า กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี แต่กรุงรัตนโกสินทร์มันหาทำยาไม่ได้ดีซักคน ประเทศเราถูกหล่อหลอมมาด้วยสภาพแวดล้อมพิเศษ ที่ทำให้นักการเมืองในบ้านในเมืองนี้ไม่มีใครนึกถึงผลประโยชน์ของประชาชนซักคน พูดๆ ไปก้อพาลให้นึกถึงคำพูดของ ดร.ป๋วย ที่เคยบอกไว้ว่า " ประเทศไทยถ้ามีงบประมาณ 1 บาท แล้วสามารถใช้ประโยชน์ได้เพียง 30 สตางค์ ประเทศชาติของเราก็จะเจริญมากแล้ว " เห็นจะป็นเรื่องจริง เพราะงบประมาณทั้งหลายแค่ตั้งโจทย์ขออนุมัติ ครม. มันก็ผิดตั้งแต่เริ่มแล้วเพราะหลายโครงการไม่ได้ตั้งอยู่บนการแก้ปัญหาที่ต่นเหตุ แต่มักจะเริ่มจากความต้องการของนักการเมืองที่จะเอางบประมาณลงพื้นที่ตัวเองให้ได้
กลับมาที่การเลือกตั้งเราจะเลือกใครดี เพราะสอดสายตาไปแต่ละพรรคมันก็พวกไดโนเสาร์ทั้งนั้น ไอ้พวกเลือดใหม่ไฟแรงมาเจอระบบพรรคก็ต้องสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไป เพราะมันยึดโยงอยู่กับอำนาจและผลประโยชน์ทั้งนั้น เอาแค่มันมาประชุมสภายังมาไม่ทำเลย แต่พอวาระประชุมเรื่องกฎหมายเลือกตั้ง เสือกผ่าน 3 วาระรวด เอากะมันสิ ถ้าไม่เอา นช.ทักสิน ไม่เอา ปชป. แล้วจะเลือกใครละครับพี่น้อง จะโหวตโนเหรอ ผมถามหน่อยโหวตโนแล้วเราจะได้นายกพระราชทานเหรอ แล้วประเทศก็จะเข้าจังหวะติ๊ดชึ่ง เหมือนตอน รบ.สุรยุทธ์ ที่ทำงานผ่านไปวันๆ ไม่กล้าตัดสินใจเพราะเรามาอยู่แป๊ปเดียวอย่าไปทำอะไรมาก รังแต่จะทำให้ประเทศเสียโอกาสไป
ประชาชนคนไทยทำไมมันถึงมีทางเลือกน้อยและตีบตันเช่นนี้เปรียบไปก็เหมือนอยู่ระหว่างเขาควายเสี้ยมไปทางไหนก็มีแต่เจ็บตัว ตกลงจะเอากันยังไงดีครับพี่น้องงงงงงงง
28.4.54
หนังบางเรื่อง รู้ทั้งรู้ว่าอาจจะไม่ได้ดี แต่มันก็ต้องดู
เรื่องทีจะพูดเนี่ยก็พ่อมดน้อย(เหรอ) Harry ของเจ๊ J.K. เค้านั่นเอง
หลังจากต้องพบกับความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า กี่ภาคต่อกี่ภาค แต่มันก็ต้องดูอ่ะ จริงป่าว มันเหมือนกับความอ้วน อุตสาห์ลงทุนขุนตัวเองให้มันสมน้ำสมเนื้อ อยู่ดีๆ จะลดลงได้ง่ายๆ ก็ไม่ใช่ เท่าที่ติดตามก็ต้องบอกตรงๆ ว่า ผิดหวังแทบทุกภาคที่ทำออกมาเป็นหน้าหนัง ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าที่ดูมาประทับใจภาคไหนมากที่สุด เนื่องจากมีส่วนเสียมากกว่าส่วนดี ประกอบกับความจำมันไม่ค่อยดีซะด้วย ยิ่งไปกันใหญ่ แต่อย่างว่า มันเป็นปรากฏการณ์ เป็นความยิ่งใหญ่ระดับ Epic อภิมหามหึมาอลังการงานสร้างของหนังหน้า เอ้ย หน้าหนังที่ตั้งใจจะให้มันยิ่งใหญ่สมกับเป็นหนังเฟรนไชส์ที่ภาคมากที่สุด มีผู้ติดตามมากที่สุด มันก็ต้องดู เหมือนเป็นหน้าที่ที่หากเริ่มดูมันแล้วก็ต้องดูให้จบ
ถ้าการดูไปดูหนังเรื่องหนึ่ง เราต้องการไปดูเพราะอารมณ์อยากดู อยากติดตามละก้อ Harray ภาคสุดท้ายนี่ เป็นหนังเรื่องนึงที่ผมไปดูเพราะเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์ครับน้องพี่
http://movie.mthai.com/trailer/92998.html
http://movie.mthai.com/trailer/92998.html
25.4.54
Thailand's got bullshit
ติดตามรายการนี้มาเกือบทุกสัปดาห์ แล้วแต่สถานการณ์เอิ้ออำนวย เนื่องจากเคยได้ดูรายการนี้ในภาคภาษาอื่นๆ ตั้งแต่ต้นฉบับอย่างประเทศอักฤษจนไปถึงเมกา เพราะชื่นชอบรายการประเภทนี้จริงๆ ที่คนเราสามารถทำอะไรที่มัน " ว้าว " ได้เจ๋งจริง
พอมาถึงเมืองไทยก็นั่งดูสัปดาห์แรกก็เริ่มสงสัยในใจว่า จะไหวมั๊ยเนี่ย เริ่มจากกรรมการก็แหม่งๆ แล้ว นิรุตต์ และภิญโญ ยังพอเข้าใจได้แต่ น้องเบนซ์ นี่เหมาะสมขนาดไหน ยังไม่ต้องพูดถึงการแต่งตัวที่สไตลลิสท์พยายามแหวกนมอันน้อยนิดให้ผู้ชมทางบ้านได้ดู เห็นแล้วขัดใจว่ะ (แต่ขอชมช่างแต่งหน้าที่แต่งได้สวยจริงๆ)
ถ้าจะพูดเรื่องกรรมการนี่ยาวมากจากที่ได้ดูมาจนถึงรอบ Semi fanal บอกได้ว่า ท่านกรรมการมีความเป็นคนไทยสูงมาก เอื้อเฟื้อแก่เด็ก สตรีและคนชราจริง ขอโทษที่เถอะ เด็กแหกปากร้องเพลงเนี่ยมันเพราะตรงไหน บางครั้งน้องเบนซ์ ยังมีมุมมองที่แปลกประหลาด เช่นโชว์ถอดเสื้อผ้า คนอื่นเค้ากดหยุดกันหมดแล้ว แต่อีนี่ยังอยากดูต่ออีก ถ้าได้ชมทาง Youtube ละก็ งามไส้กว่านี่เยอะ เรียกร้องให้เต้นให้จบกันเลยทีเดียว แล้วมาตรฐานในการตัดสินคือ ชอบอ่ะ แม้กระทั่งร้องเข้าจังหวะแต่เต้นคร่อมจังหวะ ถ้าเธอชอบมันก็ผ่านได้
ยิ่งเข้ารอบ Semi fanal ที่บอกกับเราว่ารายการสด มีการ่วมสนุกโหวตที่ไม่เคยเห็นคะแนนโหวตว่ามันต่างกันยังงัย ไม่รู้ทำไมไม่เอาที่ 1 กะที่ 2 เข้าไปเลย ยังเอา ที่ 2 กะ 3 มาให้กรรมการตัดสินอีก ซึ่งก็เป็นไปตามที่ร่ายมาข้างต้น กรรมการของเราก็ตัดสินตามมาตรฐานตัวเองตามเคยเด็กแหกปาก เข้ารอบแทนทีม Perfect dance ที่ต้องบอกว่าใช้ความพยายามและความเป็นทีมสูง
ถามหน่อยครับ Talent แบบไหนครับที่จะสมควรกับเงินรางวัล 10 ล้านบาท
แล้วอีกอย่างสัปดาห์นึงเอา 2 ทีม ถ้าสัปดาห์ไหนมีแต่ทีมแข็งๆ แสดงเก่งๆ กันหละ มันเหมือนจับสลากทีมบอลอยู่สายหิน มันไม่ยุติธรรม(ไม่รู้จะเรียกร้องหาอะไรกับความยุติธรรม) ถ้าสัปดาห์ไหนคนเก่งอยู่สายอ่อนก็สบายไป มันควรคัด 8 จาก 48 ไม่ใช่ตัดแต้มกันเองอย่างนี้
สำหรับผม บ.เวิร์คพ้อยท์ ผมให้ " ไม่ผ่าน" 3 อันเลย
22.4.54
ทำไมถึงยอมให้กัมพูชา ล่วงละเมิดอธิปไตยซ้ำซาก
เผยทหารไทยตาย 1 เจ็บ 13 เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา
ครั้งที่เท่าไหร่แล้วครับพี่ ที่อยู่ดีๆ มันก็มีลูกระเบิดหล่นใส่หัวชาวบ้านชายแดนกัมพูชา ชาวบ้านชาวช่อง ทหารหาญกีชีวิตที่ต้องสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน อย่ามัวแต่หน่อมแน้มเลยครับ อย่ามัวแต่อ้างว่าต้องดำเนินการอย่างวิถีทางการทูตเลยครับ ในเมื่อเรากำลังพูดอยู่กับคนบ้าแล้วเราจะใช้เหตุผลกับมันได้หรือครับ และไม่รู้เป็นหาอะไร ทุกครั้งที่มันยิงมามันก็ไปโพนทะนาต่างชาติว่าไทยเรายิงใส่มันก่อน แน่ะ ดูมันพูดจาช่างละม้ายคล้ายคลึงกับควายตู่ซะจริงๆ
ได้โปรดครับ ได้โปรดมีใครซักคนทำปืนลั่นซักแม็กสองแม็ก ปูพรมให้มันเดินเล่นซักผืนเอาให้ราบ เอ้ยเอาให้เรียบครับ จัดไปอย่าให้เสีย คุยกะโจรมันต้องใช้วิธีนักเลง โดยเนื้อแท้แล้วขุมกำลังเราได้เปรียบทุกประตูแต่จะเล่นบทสุภาพบุรุษตลอดมันก็ไม่ได้ มันต้องมีไม้แข็งกันบ้าง ขี้คร้านจัดไปซักรอบสองรอบมันอาจจะหดอยู่แต่ในกระดองก็ได้ โจรกระจอกพรรณนี้
21.4.54
ไอ้ตู่" อยากจะไปออกรายการ "วู้ดดี้เกิดมาคุย"
แหม วันนี้จั่วหัวซะเข้มข้นเลย แต่ขอบอกว่าหมายควายว่าตามนั้นจริงๆ สาบาน นี้ก็เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมระยำหมาของตั่วเฮีย ไม่บอกก็รู้ว่าจตนามันต้องการกระทบกระเทียบเจ้านาย เทียบชั้นตีตนเสมอเจ้านาย หนำซ้ำไอ้ ผอ. อสมท. มันยังจะออกมาบอกอีกว่า สามารถออกได้แต่ต้องประเด็นที่จะพูด ไม่รู้ใช้หัวขวดอะไรคิดวะ ว่ามันจะพูดเรื่องอะไร คนไทยทุกคนที่มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและไม่มีความเอนเอียงใดๆ ถ้าได้ฟังคำพูดพวกนี้ อย่างน้อยย่อมรู้สึกไม่พอใจที่มาพูดอะไรอย่างนี้
อมนุษย์ตัวนี้ สันนิฐานว่าเป็นโรคจิตเภท ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเรื่องไหนเรื่องจริง เรื่องไหนเรื่องโกหก หนำซ้ำมีความเชื่ออย่างสุดลิ่มทิ่มประตูว่าเรื่องโกหกที่มันพูดอยู่ทุกวันเป็นเรื่องจริงโดยที่ไม่ได้เคลือบแคลงใจแม้แต่น้อย ผมเชื่อว่ากระสุนลูกละไม่กี่บาท ซึ่งก็น่าจะถูกกว่าไอติมวอลล์ที่มันเหยียบอยู่ รบกวนจัดไปอย่าให้เสีย
19.4.54
She by สุเมธ แอนด์ เดอะ ปั๋ง
พอดีเคยได้ดูคอนเสิร์ตที่ไหน จำไม่ค่อยได้ จำได้แต่เพลงซึ่งเป็นเพลงแปลงจากหนังเรื่อง Nothing Hill เพลง She เอามาฟังกันขำๆ ครับ เนื้อหาเพลงแปลงกับดนตรีที่แสนโรแมนติกไปกันคนละทางจริงๆ
บทความ
