1.7.54

หลวงพ่อดีเนาะ แบบอย่างของการคิดบวก

พระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ อดีตสมภารวัดป่าชิคาโก แสดงธรรมไว้หลายธรรมมาสน์คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย (สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี) ฟังแล้วติดใจ เอามาพิมพ์เป็นหนังสื่อ ชื่อ หักหอกเป็นดอกไม้

เรื่องหนึ่งที่ท่านเทศน์ เป็นเรื่องของหลวงพ่อวัดหนึ่ง ซึ่งขึ้นชื่อลือชากันว่า ท่านเป็นพระที่มีแต่ความสุข ไม่เคยมีความทุกข์

วัน หนึ่ง โยมมานิมนต์ท่านไปเทศน์ที่บ้าน บอกท่านว่าจะมารับแต่เช้า หลวงพ่อก็นั่งรอจนสายโยมก็ไม่มาสักที

หลวงพ่อก็ว่า " ไม่มา ก็ดีเหมือนกันเนาะ เราฉันข้าวของเราดีกว่า "

ฉันข้าวได้ไม่กี่คำ โยมก็มารับพอดี กราบกรานขอโทษที่มาช้า เหตุเพราะว่ารถเสีย

หลวงพ่อวางช้อน " อือ ก็ดีเนาะ ไปฉันที่งานเนาะ "

นั่ง รถไปได้สักพัก เครื่องรถก็ดับอีก คนขับบอก " รถเสียครับ " หลวงพ่อก็ว่า " ดีเนาะ ได้หยุดพักชมวิวเนาะ "
คนขับซ่อมเครื่องรถได้พัก ก็ออกปากขอให้หลวงพ่อช่วยเข็นรถ

ความจริงหลวงพ่อก็แก่ ข้าวก็ฉันได้ไม่กี่คำ แต่ทานก็ยิ้ม บอกว่า " โอ้ดีเนาะ ได้ออกกำลังเนาะ "
แล้วก็ขมีขมันออกแรงช่วยเข็นรถจนวิ่งได้

ไปถึงบ้านงาน เวลาเลยเที่ยง หมดเวลาฉันอาหารไปแล้ว เป็นอันว่า วันนั้นหลวงพ่ออดข้าว เจ้าภาพก็ร้อนใจ

อะไรๆก็เลยเวลามานาน นิมนต์ท่านขึ้นเทศน์ทันที

" ดีเนาะ มาถึงก็ได้ทำงานเลยเนาะ "

หลวง พ่อว่าแล้วก็ขึ้นธรรมมาสน์เทศน์จนจบ มีคนชงกาแฟถวาย แต่เผลอตักเกลือใส่แทนน้ำตาลหลวงพ่อจิบกาแฟไปหนึ่งคำ แล้วก็บอกโยมว่า " โอ้ดีเนาะ ดีๆ " แล้วก็วาง

ธรรมเนียมของหลวงพ่อขลังๆ เวลาท่านฉันอะไร ลูกศิษย์ก็ อยากได้บ้าง ว่ากันว่าเป็นสิริมงคลดีนักเรียงหน้ารอกันเป็นแถว ลูกศิษย์คนแรก ดื่มกาแฟก็พ่นพรวดออกมา

" เค็มปี๋เลยหลวงพ่อ ฉันเข้าไปได้ยังไง! "

" ก็ดีเนาะ ฉันกาแฟหวานๆมานาน " หลวงพ่อว่า " ฉันเค็มๆมั่งก็ดีเหมือนกัน "

ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก ลมแรง น้ำท่วม หรือคนด่า หลวงพ่อท่านมองไปในแง่ดีได้หมด

มีลูกศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งไปทำผิด ถูกจับไปติดคุก ท่านก็ว่า " ก็ดีเนาะ มันจะได้ศึกษาชีวิต "

ท่าน อาจารย์ประสงค์บอกว่า หลวงพ่อองค์นี้ ชื่ออะไร อยู่วัดไหน ตัวท่านเคยจดไว้ แต่ทำสมุดที่จดหายจำได้เพียงแต่ว่า คนอีสานเขาสรรเสริญท่านมาก

แม้ท่านจะชื่อจริงอะไร ก็คงไม่มีใครจำ เพราะต่างก็เรียกท่านว่า " หลวงพ่อดีเนาะ " กันหมดแล้ว

เรื่อง ของหลวงพ่อดีเนาะ เป็นหนึ่งตัวอย่างในเรื่อง " หักหอกเป็นดอกไม้ " ทุกข์สุข ดีเลวล้วนแล้วแต่อยู่ที่วิธีคิด ถ้าคิดเป็นบวก เรื่องก็ออกมาเป็นบวก...

หลวง พ่อดีเนาะ ” แห่งวัดมัชฌิมาวาส อุดรธานี ซึ่งมองโลกในแง่ดี ไม่เคยจับผิดใคร ไม่เคยว่าใคร … เจอปัญหาอะไรๆ ก็พูดว่า “ ดีเนาะ ” … จนกระทั่งได้รับพระราชทานสมณศักดิ์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เป็น “ พระเทพวิสุทธาจารย์ สาธุอุทานธรรมวาที ” ซึ่งแปลว่า ดีเนาะ

หลวงพ่อ ดีเนาะเป็นเกจิอาจารย์มีชื่อของจังหวัดอุดรธานี ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก ท่านมีลูกศิษย์ลูกหาและผู้เคารพนับถือทั่วประเทศ มีเรื่องเกี่ยวกับการบำเพ็ญบารมี และการประพฤติปฏิบัติตนของหลวงพ่อดีเล่าขานกันมากมายหลายเรื่องเช่นมีผู้ เล่าว่า เนื่องจากหลวงพ่อดีมีผู้เคารพนับถือมาก จึงมีผู้มาถวายจตุปัจจัยข้าวของเครื่องใช้ที่มีค่าแก่ท่านมากมาย ในกุฏิของหลวงพ่อดีจึงมีข้าวของเงินทองที่เตะตาล่อโจรให้อยากลองของมากมาย แต่ดูเหมือนว่าหลวงพ่อท่านไม่ค่อยจะสนใจวัตถุรอบกายของท่านแต่อย่างใดอยู่มา วันหนึ่ง หลวงพ่อดีก็ถูกขุนโจรใจโหดปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์มากมาย ถือปืนบุกเข้าประชิดตัวหลวงพ่อบนกุฏิพร้อมทั้งประกาศก้อง
“ นี่คือการปล้น อย่าได้ขัดขืนนะหลวงพ่อ ” หลวงพ่อดียิ้มกับโจรด้วยอารมณ์ดีและไม่มีอาการสะทกสะท้าน ท่านกล่าวกับโจรอย่างนิ่มนวลว่า
“ ปล้นก็ดีเนาะ ” โจรชักแปลกใจในคำพูดและท่าทีของหลวงพ่อ โจรพูดว่า
“ ถูกปล้นทำไมว่าดีละหลวงพ่อ ” หลวงพ่อดีตอบว่า
“ ทำไม่จะไม่ดีละ ก็ข้าต้องทนทุกข์ทรมานเฝ้าไอ้สมบัติบ้า ๆ นี้ตั้งนานแล้ว เอ็งเอาไปเสียให้หมดข้าจะได้ไม่ต้องเฝ้ามันอีก ” โจรขู่อีก
“ ไม่ใช่ปล้นอย่างเดียวฉันต้องฆ่าหลวงพ่อด้วย เพื่อปิดปากเจ้าทรัพย์ ” หลวงพ่อดีก็ตอบเหมือนเดิม
“ ฆ่าก็ดีเนาะ ” โจรแปลกใจจึงถามว่า
“ ถูกฆ่ามันจะดีได้อย่างไรละหลวงพ่อ ” หลวงพ่อดีตอบ

“ ข้ามันแก่แล้ว ตายเสียได้ก็ดี จะได้ไม่ทุกข์ร้อนอะไร ” โจรรู้สึกอ่อนใจเลยบอกว่า
“ ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ฆ่าหรอก ” หลวงพ่อดีก็พูดเหมือนเคย
“ ไม่ฆ่าก็ดีเนาะ ” โจรถามอีก
“ ทำไมฆ่าก็ดี ไม่ฆ่าก็ดีอีก ” หลวงพ่อดีบอกว่า
“ การ ฆ่ามันเป็นบาป เอ็งจะต้องชดใช้เวรทั้งชาตินี้และชาติหน้า อย่างน้อยตำรวจเขาจะต้องตามจับเอ็งเข้าคุก เข้าตะราง หรือไม่ก็ถูกฆ่าตาย ตายแล้วก็ยังตกนรกอีก ” โจรเลยเปลี่ยนใจ
“ ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ปล้นหลวงพ่อแล้ว ” หลวงพ่อดีก็ตอบอีกว่า
“ ไม่ปล้นก็ดีเนาะ ”
มี ผู้เล่าต่อมาว่า ในที่สุดโจรคนนั้นก็สำนึกบาปเข้ามอบตัวกับตำรวจ เมื่อพ้นโทษออกมาก็ขอให้หลวงพ่อดีบวชให้และบำเพ็ญศีลภาวนาตลอดมา ส่วนหลวงพ่อดีมีคนให้ฉายาท่านว่า “ หลวงพ่อดีเนาะ ” มาจนทุกวันนี้

ท่านมีตัวตนอยู่จริงครับ

พระเทพวิสุทธาจารย์ (หลวงปู่ดีเนาะ)
วัดมัชฌิมาวาส อ.เมือง จ.อุดรธานี

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More